ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับอัลกอริทึมของ Google เองก็เช่นกัน ที่ถึงแม้จะมียอดการใช้งานมากกว่า 2 ล้านล้านครั้งในแต่ละปี หากแต่พวกเขาก็ยังคงทำการปรับปรุง และอัปเดตระบบอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญ SEO ทั้งหลายต้องรีบปรับตัวกันหัวหมุน เพราะนี่ย่อมส่งผลถึง SEO Ranking อย่างร้ายแรง !
Google’s Core Update คือ ?
ถ้าให้พูดแบบง่าย ๆ Google’s Core Update ก็คือการปรับปรุงอัลกอริทึม ด้วยการเพิ่มความสำคัญให้กับเงื่อนไขบางข้อ และลดความสำคัญของเงื่อนไขบางอย่างลง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับในสิ่งที่พวกเขาต้องการค้นหาจริง ๆ …ว่าแต่การอัปเดตนี้สำคัญยังไงกับ SEO Ranking ?
จะเกิดอะไรขึ้นกับ SEO Ranking ?
การอัปเดตของ Google’s Core Update นั้นจะส่งผลกับ SEO Ranking อย่างรวดเร็ว ทำให้อันดับในหน้าการค้นหาพุ่งพรวด หรือร่วงกราวลงจนจมหายไปกับเว็บไซต์อื่น ๆ เพิ่มและลดการเข้าชม รวมไปถึงยอด Traffic จนส่งผลไปยังยอดขาย และการเติบโตของเว็บไซต์ โดยที่ถ้าอยากรู้ว่าเว็บไซต์คุณในตอนนี้นั้นยอดเข้าชมและ Traffic นี้เป็นยังไงนั้น สามารถไปดูได้ที่ Google Analytics
SEO และ Google’s Core Update เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
แท้ที่จริงแล้วนั้น การทำ SEO คือกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาบนเว็บไซต์ ให้เป็นไปตาม Google’s Core นั่นเอง ดังนั้นแล้วการที่ Google ออกมาอัปเดตในแต่ละครั้ง จำมักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในวงการ SEO เพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นจะต้องทำการปรับปรุงเว็บไซต์กันยกใหญ่เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป
วิธีกู้คืนอันดับ SEO Raking จากการอัปเดตของ Google !
Google’s Core Update ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2020 และถ้าอันดับ SEO Raking ของคุณลดลง งั้นแล้วเรื่องดังต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรไปตรวจสอบแก้ไข
- ตรวจสอบเนื้อหา Content บนหน้าเว็บไซต์ของคุณ
Google นั้นให้ความสำคัญกับเนื้อหาเสมอ และการอัปเดตครั้งนี้ ก็คือการให้คุณค่ากับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Keyword นั้น ๆ มากขึ้น ดังนั้นแล้วถ้า SEO Raking ของคุณตก นั่นก็อาจเป็นเพราะเนื้อหา Content ของคุณนั้นไม่ตรง
วิธีแก้ : ทำการอัปเดตเนื้อหาคอนเทนต์ใหม่อีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ต้องทำให้ตรงประเด็น มีคุณค่า ทันสมัย และอย่าลืมที่จะสอดแทรกคำถาม-คำตอบที่ผู้คนมักจะสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาดังกล่าวเข้าไปด้วย
- ปรับปรุง Pagespeed
User Experience หรือประสบการณ์ของผู้ใช้งานคือสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญในระดับต้น ๆ ดังนั้นแล้วอันดับ SEO Raking จะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้ด้วยเช่นกัน และการที่หน้าเว็บมี Pagespeed ที่ช้า ต้องใช้เวลาโหลดเข้าหน้าเว็บที่นาน ก็ไม่ใช่ User Experience ที่ดีเท่าไหร่นัก
วิธีแก้ : ทำการปรับปรุง Pagespeed โดยสามารถเช็คความเร็วของเว็บได้จาก PageSpeed Insights ว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเร็วเท่าไหร่
- ดูให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณนั้น Mobile-Friendly
Mobile-Friendly คือหนึ่งในการอัปเดตสำคัญของ Google ที่ให้ความสำคัญกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นอันดับแรก มากกว่าการเข้าเว็บไซต์ผ่าน PC ดังนั้นแล้วถ้าเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับการเข้าใช้งานในรูปแบบนี้ อันดับ SEO Raking ของคุณก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
วิธีแก้ : ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็น Mobile-Friendly โดยสามารถเข้าไปเช็คได้ที่ Mobile-Friendly Test ว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเช่นไร
- อย่าลืมใช้ ALT Tags กับไฟล์รูปภาพ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำ SEO Raking งั้นแล้วการใส่คำอธิบายภาพก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ เพราะวิธีนี้จะทำให้ Google เข้าใจหน้าเว็บของคุณมากขึ้น จนนำไปสู่การจัดอันดับที่ดีได้
- สร้าง Backlink ที่มีประสิทธิภาพ
Backlink คือหนึ่งในวิธีเพิ่มอันดับ SEO Raking ที่ดีที่สุด เพราะนี่คือวิธีการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณในสายตาของ Google หากแต่ก็ใช่ว่าจะสามารถสร้าง Backlink พร่ำเพรื่อได้ ต้องเลือกเว็บไซต์สำหรับทำ Backlink ที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน
สรุป
เนื่องจาก SEO นั้นแตกต่างจาก PPC ที่เป็นบริการโฆษณาโดยตรงของ Google ดังนั้นแล้วการจะเพิ่มอันดับ SEO Raking จึงต้องใช้เวลา ทั้งในเรื่องของการตรวจสอบรายละเอียด ปรับปรุงเว็บไซต์ และอื่น ๆ อีกมากมายให้เป็นไปตาม Google’s Core Update ในแต่ละครั้ง !
แต่ถ้าคุณกำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO ที่มีความเชี่ยวชาญ ให้มาช่วยผลักดันเว็บไซต์ของคุณติด SEO Raking บนหน้าแรกของ Google อยู่ละก็ ลองติดต่อมาที่ Spyder ที่นี่พวกเรามีทีมงาน SEO ที่พร้อมจะทำให้ความต้องการดังกล่าวของคุณเป็นจริงได้ ! ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ได้ฟรี ! ที่ contact@spyder.co.th หรือจะ Leave a Comment ไว้ให้เราติดต่อกลับไปก็ได้ตามสะดวก !